ขั้นตอนการเข้าหัวสายแลนอย่างมืออาชีพ

ขั้นตอนการเข้าหัวสายแลนอย่างมืออาชีพ

การเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการเลือกใช้สาย LAN ที่มีคุณภาพและการเข้าหัวสายอย่างถูกต้อง การเข้าหัวสาย LAN อย่างมืออาชีพไม่เพียงแค่ช่วยให้การเชื่อมต่อเครือข่ายมีความเสถียร แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาการสูญเสียข้อมูลและการรบกวนสัญญาณจากภายนอก และนี่จะเป็นการทำความรู้จักพร้อมขั้นตอนการเข้าหัวสาย LAN อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์ไปจนถึงการทดสอบสาย เพื่อให้มั่นใจว่าการติดตั้งเครือข่ายของคุณจะได้รับประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถใช้งานได้ยาวนาน

เตรียมอุปกรณ์

  • สาย LAN (Cat5e, Cat6, หรือประเภทที่เหมาะสม)
  • หัวสาย LAN (RJ45 connectors)
  • เครื่องมือเข้าหัวสาย (Crimping tool)
  • คัตเตอร์หรือคีบตัดและปลอกสายไฟ
  • เกจวัดความยาวสาย (Cable stripper) หรือเครื่องมือถอดปลอก
  • เครื่องทดสอบสาย LAN (Cable tester) สำหรับตรวจสอบการทำงานหลังการเชื่อมต่อ

ตัดสายให้เหมาะสม

  • ใช้คัตเตอร์ตัดสาย LAN ให้มีความยาวที่ต้องการ โดยคำนึงถึงระยะทางจากปลายสายถึงจุดเชื่อมต่อ
  • ควรตัดให้เรียบร้อยและมีความยาวที่พอเหมาะ ไม่ยาวเกินไปและไม่สั้นเกินไป

ลอกปลอกสาย (Strip the cable)

  • ใช้เครื่องมือถอดปลอกเพื่อลอกปลอกสาย LAN โดยเปิดส่วนปลายของสายออกให้เห็นตัวเส้นทองแดงภายใน
  • ระวังไม่ให้ตัดหรือทำลายสายภายในระหว่างการลอกปลอก

จัดระเบียบสาย (Organize the wires)

  • เรียงสายให้ถูกต้องตามมาตรฐาน TIA/EIA
    • มาตรฐาน TIA-568A:
      • ขาวเขียว, เขียว, ขาวส้ม, น้ำเงิน, ขาวน้ำเงิน, ส้ม, ขาวน้ำตาล, น้ำตาล
    • มาตรฐาน TIA-568B:
      • ขาวส้ม, ส้ม, ขาวเขียว, น้ำเงิน, ขาวน้ำเงิน, เขียว, ขาวน้ำตาล, น้ำตาล
  • เรียงให้เส้นทั้งหมดเรียบและตรงโดยไม่ให้ขดตัวหรือพันกัน

ตัดส่วนเกิน

  • หลังจากเรียงสายเสร็จ ให้ใช้เครื่องมือคัตเตอร์ตัดส่วนเกินของสายให้เรียบร้อย โดยให้เหลือเพียงพอดีกับหัว RJ45

เสียบสายเข้าหัว RJ45

  • เสียบสายทั้งหมดลงในหัว RJ45 ตามลำดับที่เรียงไว้ โดยให้สายทุกเส้นเข้าไปในช่องของหัวให้สุด
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละเส้นเข้าไปในช่องอย่างถูกต้องและมีความแน่น

บีบหัว RJ45 (Crimping)

  • ใช้เครื่องมือเข้าหัว (crimping tool) บีบหัว RJ45 ให้แน่น โดยให้แน่ใจว่าเข็มในหัว RJ45 เจาะเข้าไปในสายทองแดงภายใน
  • บีบหัว RJ45 จนกระทั่งสายไม่หลุดออกจากหัว

ทดสอบสาย LAN

  • ใช้เครื่องทดสอบสาย LAN (cable tester) เพื่อตรวจสอบว่าแต่ละสายเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง โดยทดสอบการทำงานของแต่ละพิน
  • ตรวจสอบว่าไม่มีการเชื่อมต่อผิดพลาด (เช่น ข้ามเส้น หรือเส้นไม่สัมผัส)

ทำความสะอาด

  • หากต้องการ ให้จัดเก็บสายให้เรียบร้อยหรือหากจำเป็นต้องติดตั้งให้ใช้สายรัดหรือสายรัดเพื่อไม่ให้สายพันกัน

การทำงานของเครื่องทดสอบสาย LAN (cable tester) 

เครื่องทดสอบสาย LAN หรือ Cable Tester เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพและความถูกต้องของสายแลน โดยมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบการเชื่อมต่อ, ความเสียหาย, และคุณภาพของสายสัญญาณ เพื่อให้แน่ใจว่าสายแลนทำงานได้อย่างถูกต้องและเชื่อถือได้

การทำงานของเครื่องทดสอบสาย LAN

  1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบว่าสายแลนเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่างถูกต้องหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบว่าสายสีถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่.
  2. ตรวจสอบความเสียหาย: สามารถตรวจสอบความเสียหายของสายแลน เช่น สายขาด, สายลัดวงจร, หรือการเรียงสายที่ไม่ถูกต้อง.
  3. วิเคราะห์คุณภาพสาย: วิเคราะห์คุณภาพของสายแลน เช่น ความเร็วที่สายสามารถรองรับได้, ความยาวของสาย, และค่าความต้านทานของสาย.
  4. การตรวจสอบ Wiremap: ตรวจสอบว่าลำดับของสายสีถูกต้องหรือไม่ โดยแสดงผลเป็น “PASS” หรือ “FAIL” บนหน้าจอ.
  5. การตรวจสอบความยาวสาย: ตรวจสอบความยาวของสายแลนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกินระยะที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 100 เมตร).
  6. การตรวจสอบ Propagation Delay และ Delay Skew: ตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการส่งสัญญาณและความแตกต่างของเวลาในการส่งสัญญาณระหว่างสายสัญญาณแต่ละคู่.

ประเภทของเครื่องทดสอบสาย LAN

เครื่องทดสอบสาย LAN สามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับ ได้แก่:

  • Verification Level: ตรวจสอบการเชื่อมต่อพื้นฐาน.
  • Qualification Level: ตรวจสอบคุณภาพของสายและความสามารถในการส่งข้อมูล.
  • Certification Level: ตรวจสอบและรับรองว่าสายแลนตรงตามมาตรฐานที่กำหนด.

โดยรวมแล้ว เครื่องทดสอบสาย LAN เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการรับประกันคุณภาพและประสิทธิภาพของระบบเครือข่าย.

นอกจากนี้ MTECH ยังมีบริการทดสอบสาย LAN ด้วยเครื่อง  DSX-8000 

DSX-8000 ซึ่งสามารถรับรองสายเคเบิลได้สูงสุดถึง Cat 8 / 2 GHz และ DSX-5000 ซึ่งสามารถรับรองได้สูงสุดถึง Cat 6A / Class FA / 1 GHz

ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Versiv ยังรวมถึงโมดูลการรับรองไฟเบอร์ OLTS, OTDR และการตรวจสอบไฟเบอร์ด้วย Versiv ช่วยลดต้นทุนการรับรองโดยรวมได้สูงสุดถึง 2/3 และสามารถเพิ่มกำไรของแต่ละงานได้มากถึง 10% นอกจากความเร็วในการทดสอบที่เร็วที่สุด (เพียง 8 วินาที สำหรับ Cat 6A) ระบบยังได้รับการออกแบบมาเพื่อลดข้อผิดพลาดและปรับปรุงกระบวนการรับรองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

การผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์กับ LinkWare Live ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ ช่วยให้ผู้จัดการโครงการสามารถตั้งค่าตัวทดสอบจากระยะไกล ติดตามความคืบหน้าของงาน และค้นหาตัวทดสอบจากอุปกรณ์อัจฉริยะใดๆ ได้

ด้วย DSX CableAnalyzer™ และ Versiv™ คุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่ใช้งาน

.

หากลองทำตามขั้นตอนนี้แล้วยังไม่เข้าใจ ท่านสามารถใช้บริการต่างๆเกี่ยวกับสาย LAN หรือบริการเช่าอุปกรณ์เครื่องทดสอบเครือข่ายหรือการรับเหมาติดตั้งต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมโทร เทคโนโลยี จำกัด หรือ คลิกที่นี่เพื่อติดต่อ 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *