รูปแบบการทำ Wifi HeatMAP Site Survey
การทดสอบ Wi-Fi Heatmap Site Survey: รูปแบบ ขั้นตอนสำคัญ และการสำรวจผนัง
การวิเคราะห์และวางแผนเครือข่าย Wi-Fi มีความสำคัญอย่างยิ่งในการให้บริการเครือข่ายที่มีคุณภาพสูงในพื้นที่ต่างๆ การทดสอบ Wi-Fi Site Survey มีหลายรูปแบบ เช่น Active Survey, Passive Survey, Predictive Survey และ AP on Stick (APoS) Survey ซึ่งการทดสอบแต่ละประเภทมีเป้าหมายและวิธีการแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและมีผลต่อประสิทธิภาพของเครือข่ายคือ “ประเภทของผนัง” และวัสดุที่ใช้ในพื้นที่ เนื่องจากผนังและวัสดุมีผลโดยตรงต่อการกระจายและลดทอนของสัญญาณ Wi-Fi
1. การทดสอบแบบ Active Survey
Active Survey เป็นการทดสอบสัญญาณ Wi-Fi ที่ใช้วิธีเชื่อมต่อกับเครือข่ายแล้ววัดประสิทธิภาพ เช่น ความเร็ว, Latency และ Packet Loss ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เห็นคุณภาพการใช้งานจริงในจุดต่างๆ
- ผนังในกรณีนี้: ไม่มีความจำเป็นต้องวิเคราะห์ประเภทของผนังโดยละเอียด เนื่องจากเป็นการทดสอบสัญญาณในสถานที่จริง
- ตัวอย่างการใช้: การทดสอบหลังการติดตั้ง Access Points เพื่อยืนยันความแรงและคุณภาพของสัญญาณในพื้นที่ใช้งานจริง
2. การทดสอบแบบ Passive Survey
Passive Survey เป็นการสแกนหาสัญญาณ Wi-Fi โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย วิธีนี้ใช้ในการตรวจสอบความแรงของสัญญาณที่ส่งออกจาก AP รวมถึงการรบกวนจาก AP อื่นๆ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ความถี่เดียวกัน
- ผนังในกรณีนี้: สามารถมองเห็นผลกระทบจากผนังต่อการกระจายของสัญญาณได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ว่าจุดใดของอาคารมีสัญญาณอ่อนลงเนื่องจากมีสิ่งกีดขวาง
- ตัวอย่างการใช้: ตรวจสอบจุดอับสัญญาณหรือพื้นที่ที่สัญญาณอ่อน
3. การทดสอบแบบ Predictive Survey (Heatmap Simulator)
Predictive Survey หรือการจำลองการกระจายสัญญาณ Wi-Fi เป็นวิธีที่ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อคาดการณ์การกระจายของสัญญาณโดยพิจารณาจากแผนที่อาคาร ตำแหน่งของ Access Points และข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ประเภทของผนังและวัสดุก่อสร้าง
- การสำรวจผนัง: มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีผลต่อการลดทอนสัญญาณ Wi-Fi ผนังแต่ละประเภท เช่น คอนกรีต อิฐ หรือกระจก มีการลดทอนสัญญาณที่ต่างกัน ซึ่งซอฟต์แวร์จำลองจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการคำนวณการกระจายสัญญาณ เพื่อให้ได้ผลการจำลองที่แม่นยำ
- ตัวอย่างการใช้: การวางแผนติดตั้ง Access Points ในพื้นที่ใหม่เพื่อคาดการณ์ความครอบคลุมของสัญญาณก่อนการติดตั้งจริง
4. การทดสอบแบบ AP on Stick (APoS) Survey
APoS Survey เป็นการวาง Access Point ชั่วคราวในตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องการติดตั้ง แล้วทำการสำรวจสัญญาณรอบๆ เพื่อประเมินผลก่อนที่จะทำการติดตั้งจริง
- ผนังในกรณีนี้: ต้องพิจารณาผนังในจุดที่ต้องการติดตั้ง AP อย่างละเอียด เนื่องจากผลการทดสอบนี้จะใช้ในการตัดสินใจว่าตำแหน่งนั้นเหมาะสมหรือไม่
- ตัวอย่างการใช้: สำรวจสัญญาณรอบตำแหน่งที่วางแผนติดตั้ง AP ในอาคารขนาดใหญ่
ความสำคัญของการสำรวจผนังและวัสดุก่อสร้าง
ผนังและวัสดุก่อสร้างมีผลต่อการลดทอนของสัญญาณ Wi-Fi ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในการทำ Predictive Survey ที่จำเป็นต้องคำนวณจากข้อมูลวัสดุก่อสร้างเพื่อให้การจำลองสัญญาณแม่นยำ ตัวอย่างเช่น:
- ผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก: ลดทอนสัญญาณอย่างมาก
- ผนังอิฐ: ลดทอนสัญญาณปานกลาง
- กระจก: อาจสะท้อนหรือดูดซับสัญญาณ ขึ้นอยู่กับประเภทของกระจก
- วัสดุไม้: ลดทอนสัญญาณน้อยกว่าวัสดุแข็งอื่นๆ
ความสำคัญของรายงานผลลัพธ์การทดสอบ
เมื่อทำการทดสอบเสร็จสิ้น ผลลัพธ์จะถูกสรุปในรูปแบบรายงานที่ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังนี้:
- Heatmap (Coverage and Signal Strength) แสดงการกระจายของสัญญาณ Wi-Fi และพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อนหรือแข็งแรง
- Channel Settings Analysis การวิเคราะห์การตั้งค่าช่องสัญญาณ (Channel) เพื่อหาปัญหาการรบกวนและการทับซ้อนของช่องสัญญาณ
- Overall Signal Coverage ตรวจสอบความครอบคลุมของสัญญาณ Wi-Fi ทั้งหมดในพื้นที่
- Channel Interference วิเคราะห์การรบกวนจาก AP หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ความถี่เดียวกัน
- Operating Mode และ Channel Width แสดงโหมดการทำงานและขนาดของช่องสัญญาณที่ถูกใช้งาน ซึ่งมีผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพ
- Access Points Information และ Noise Level ข้อมูลของ AP แต่ละตัว รวมถึงการตรวจสอบสัญญาณรบกวนในพื้นที่
- Signal-to-Noise Ratio (SNR) แสดงอัตราส่วนระหว่างสัญญาณ Wi-Fi กับสัญญาณรบกวน เพื่อประเมินคุณภาพของสัญญาณ
สรุป
การทำ Wi-Fi Site Survey ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบหลังการติดตั้ง (Active/Passive) หรือการจำลองสัญญาณ (Predictive Survey) ล้วนมีความสำคัญในการวางแผนเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ การสำรวจผนังและวัสดุก่อสร้างมีผลโดยตรงต่อความแม่นยำในการออกแบบและจำลองสัญญาณ Wi-Fi การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดจะช่วยให้เครือข่าย Wi-Fi ที่ติดตั้งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการใช้งานจริงได้ดีที่สุด
หลายคนมักเข้าใจว่าการทำ Passive Survey คือการสำรวจสัญญาณก่อนการติดตั้ง และ Active Survey คือการทำหลังการติดตั้ง แต่ที่จริงแล้ว Passive Survey คือการดักฟังสัญญาณในแต่ละช่อง โดยไม่เชื่อมต่อกับ SSID ขณะที่ Active Survey คือการเชื่อมต่อกับ SSID ระหว่างการสำรวจ โดย Active Survey จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเช่น Jitter, Packet Loss และ Latency นอกจากข้อมูลที่ได้จาก Passive Survey แต่โดยปกติแล้วเราจะทำ Passive Survey เป็นหลัก เว้นแต่ลูกค้าต้องการ Active Survey เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ Client ที่อาจส่งผลต่อ heatmap การทำ Passive Survey จะช่วยให้เราได้ raw data ที่เปรียบเทียบและวิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากค่า RF ที่อ่านได้จาก Client ที่แตกต่างกันอาจไม่เท่ากัน เช่น การใช้ Laptop 2 เครื่องที่มีรุ่นและยี่ห้อเดียวกัน